โดย : ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ttappitak@gmail.com
ภูเก็ตเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลาย วิถีชีวิตที่คนภูเก็ตส่วนใหญ่จะนั่งจิบกาแฟคุยกันทุกเช้า
ภูเอ๋ย ภูเก็ตอาณาเขตที่เรารักกัน
โธ่เอ๋ย สะพานสารสินเป็นถิ่นรื่นรมย์
ลาแล้ว ลาก่อนไม่ย้อนหวนคืนมาชม
ลาแล้วหนอ...ความขื่นขมทุกข์ระทมสิ้นสุดกันที
เราสองรักใคร่ไม่เคยหน่ายขอตายร่วมกัน
ฝากฝังสะพานสารสินช่วยเป็นสักขี
เราสองรักมั่นผู้ใหญ่เขากันหาว่าไม่ดี
บุญน้อยจริงๆ ชาตินี้เราจึงพลีชีพตายพร้อมกัน...!!!!
ย้อนกลับไปประมาณ 40 ปีที่แล้ว เพลงนี้นอกจากจะโด่งดังแล้ว ยังทำให้คนไทยได้รู้จัก ภูเก็ต และเดินทางไปเที่ยวเกาะใหญ่ที่สุดของเมืองไทยมากขึ้น จนอาจพูดได้ว่าภูเก็ตเป็นดินแดนยอดปรารถนาของหลายคนที่ขอไปเยือนสักครั้ง
...ความรักของ โกดำ แซ่ตัน ชายหนุ่มขับรถโปท้อง (รถสองแถว) กับ กิ๋ว กาญจนา แซ่หงอ นักศึกษาสาววิทยาลัยครู ผู้พรั่งพร้อมไปด้วยชาติตระกูลและฐานะทางสังคม ชาวตำบลท่าฉัตรไชย จังหวัดภูเก็ต ถูกความแตกต่างทางสังคมกีดกัน จึงตัดสินใจใช้ผ้าขาวม้าผูกข้อมือเข้าด้วยกัน แล้วปีนราวสะพานสารสินกระโดดลงไปในน้ำจบชีวิต...เป็นโศกนาฏกรรมที่คนภูเก็ตมิเคยลืม
หลายปีที่ผ่านมา ภูเก็ตกลาย เป็นเมืองในฝันของชาวต่างชาติ หลายคนมาทุกปี หลายคนมาปีละหลายๆ ครั้ง หลายคนมาครั้งละหลายเดือน และหลายคนมาลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่...ภูเก็ตวันนี้เต็มไปด้วยชาวต่างชาติ เดินไปทางไหนมีแต่ฝรั่งต่างชาติ
ภูเก็ต...เป็นเมืองฝรั่ง
จริงหรือ ??????
จริง...คือในช่วงปลายๆ ปีต่อเนื่องจนถึง 3-4 เดือนของอีกปีต่อมา หรือประมาณ 7-8 เดือน ชาวต่างชาติโดยเฉพาะจากยุโรป จะหนีหนาวเข้ามาเที่ยวและอยู่ที่ภูเก็ต ฉะนั้นโรงแรมตลอดจนที่พักอาศัยในรูปแบบต่าง ๆ จึงเต็มหรือค่อนข้างเต็ม เป็นช่วงพีค (Peak) หรือไฮซีซันของภูเก็ต ซึ่งเป็นเรื่องดีมาก เงินทองเข้ามาสู่ภูเก็ตและประเทศไทย
ที่ไม่จริงก็คือ...หลังจากชาวต่างชาติกลับไปบ้านแล้ว ภูเก็ตกลับ สู่ความเงียบเหงา เรียกว่าโลว์ซีซัน หลังเดือนเมษายนเป็นต้นไป ประมาณ 4-5 เดือน โรงแรมและสถานที่พักต่างๆ ว่างกันเป็นแถว แทบทุกแห่งลดราคากันแบบสุดๆ เพื่อให้อยู่ได้ และที่คือโอกาสของคนไทยที่จะได้ไปสัมผัสบรรยากาศของภูเก็ต
ชาวยุโรปบางกลุ่มลงขันกันสร้างโรงแรมขนาดเล็กไม่เกิน 100 ห้อง สำหรับพวกของตัวเองมาพักโดยเฉพาะ มาพักครั้งละหลายเดือน หลังจากพวกนี้กลับไปแล้ว ก็อนุญาตให้ทางผู้บริหารโรงแรมลดราคาสำหรับคนไทย หรือแขกชาติอื่น ๆ จากราคาเดิมคืนละ 4,000-5,000 บาท เหลือเพียง 2,000 บาทต้นๆ บางแห่งอาจจะต่ำกว่านั้น
ภูเก็ตเป็นของเราแล้ว...ไปภูเก็ตกันดีกว่า...!!!!
ไปคราวนี้ไม่ได้เที่ยวและกินเท่านั้น แต่ได้พูดคุยกับผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของภูเก็ต... เสียงสะท้อนของพวกเขา หมายถึงกระเป๋าของเราคนภูเก็ตและเศรษฐกิจไทย...?
Blandine Cressard ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต ในฐานะประธาน Skal International Phuket and South Thailand บอกว่า “ทางคลับทำงานทั้งกับสังคมชาวภูเก็ตและ ธุรกิจในเครือข่าย เช่น ช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ ซึ่งมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนงานในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมตอนนี้เรามีแผนการพัฒนาบุคลากรให้เป็น มืออาชีพมากขึ้น เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกว่า บุคลากรที่เข้มแข็งจะทำให้เกิดความแข็งแกร่งกับธุรกิจนี้”
Skal International เป็นคลับของกลุ่มผู้บริหารธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวและสร้างเพื่อน สมาชิกมีทั้งโรงแรม รีสอร์ท สายการบิน บริษัททัวร์ ร้านอาหาร ฯลฯ มีสมาชิกกว่า 25,000 คน จากกว่า 500 คลับ จากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก ส่วน Skal International Phuket and South Thailand ก่อตั้งเมื่อปี 1995 เป็นสมาชิกอันดับที่ 449 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 100 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มีการนัดพบดินเนอร์กันทุกพฤหัสบดีที่ 3 ของทุกเดือน
Claude Sauter ชาวสวิสที่อาศัยอยู่ภูเก็ตกว่า 15 ปี จนเป็นบ้านหลังที่สอง ในฐานะผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเคป พันวา (Cape Panva) ซึ่งเป็นโรงแรมยุคแรก ๆ ของภูเก็ตกล่าวว่า “ภูเก็ตยัง มีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวอีกเยอะ เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ สิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์ ดูได้จากตอนนี้มีเที่ยวบินเหมาลำตรงมาจากประเทศในสแกนดิเนเวีย สวีเดน เดนมาร์ก ปารีส และ เบลเยียม นอกจากนั้นกลุ่มเอเชีย เช่นสิงคโปร์ ฮ่องกง ก็มากขึ้น โรงแรมเราเปิดมา 22 ปีแล้ว อยู่ในระดับ 4 ดาว ผมกำลังยกระดับให้เป็น 5 ดาว อย่างแรกคือทำห้องให้เป็นห้องสวีททั้งหมด ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2011” Claude Sauter เป็นรองประธาน Skal International Phuket ด้วย
Robert Wittebrood ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมเลอ เมอริเดียน ภูเก็ต บีช รีสอร์ท (Le Meridien Phuket) บอกว่า “เราเป็นโรงแรมหรูแห่งแรกของที่นี่ เพิ่งฉลองครบรอบ 23 ปีไปเมื่อเร็วๆ นี้ เรามีสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส ช่วงหลังมีชาวออสเตรเลียเพิ่มขึ้น มีไฟลต์บินตรงจากซิดนีย์และเมลเบิร์น ที่สำคัญเรามีแขกจากเอเชียมากขึ้น เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพราะภูเก็ตเป็นแดนสวรรค์ของการพักผ่อน ทุกอย่างมาจบที่ภูเก็ต”
ชนก แก้วสีนวล คุณแตงโม หรือ “แม่โม“ ของลูกน้อง เจ้าของ แตงโมกรุ๊ป อาณาจักรความบันเทิงในย่านป่าตอง ที่ไม่เฉพาะคนภูเก็ตเท่านั้นที่รู้จัก แต่โด่งดังไปถึงต่างประเทศ ใครมาภูเก็ตไม่มาสัมผัสสิ่งที่คุณแตงโมนำเสนอ ถือว่ายังไม่ถึงภูเก็ตอย่าง แท้จริง หนึ่งในธุรกิจในเครือคือร้านอาหารไทยชื่อ นิวส์เปเปอร์ (Newspaper) ที่แปลว่าหนังสือพิมพ์ เพราะกำเนิดของชื่อร้านมาจากหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่เจ้าของร้านไม่รู้จะตั้งชื่ออะไร มองไปเห็นหนังสือพิมพ์เก่าๆ จึงตั้งชื่อนี้เสียเลย เธอบอกว่า “นักท่องเที่ยวในภูเก็ตส่วน ใหญ่ 90% เป็นต่างชาติ ดังนั้นเราจึงทำอะไรให้ตรงกับรสนิยมของเขา รู้ว่าฝรั่งไม่กินเผ็ด ชอบการตกแต่งจานให้สวยงาม รสชาติอาหารอาจจะคล้ายกับที่อื่น แต่เรามีทั้งแบบดั้งเดิมและใส่ลูกเล่นลงไป ให้แตกต่างและจดจำได้ ราคาอยู่ระดับกลางถึงบน เพราะขายดีไซน์และความเก๋ไก๋เชิงไลฟ์สไตล์ คนที่ชอบความล้ำและบริโภคสิ่งที่บ่งบอกตัวตนได้ มาเสียเงินที่นี่ถือว่าคุ้มค่า” ร้านนี้อาหารอร่อยหลายอย่าง เช่น ปลาสามรส และข้าวอบสับปะรดที่กินกับไวน์ขาว Septimo Dia, Mendoza, Argentina, Chardonnay 2008 อร่อยมาก
ชาคริต จตุพรพิเศษ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา (JW Marriott Phuket Resort & Spa) กล่าวว่า “ที่ผ่านมาโรงแรมของเรามีลูกค้าเกือบเต็มโดยตลอด เพราะเรามีหลายสิ่งหลายอย่างบริการลูกค้า เรียกว่าถ้ามาอยู่ที่นี่แล้ว แทบไม่ต้องออกไปไหนเลย สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลาย ห้องอาหารมีแทบทุกประเภททั้ง ไทย อิตาลี สเต๊กเฮ้าส์ และ ญี่ปุ่น ไม่รวมคาเฟ่และบาร์อีกหลายบรรยากาศ”
โรงแรมนี้ตั้งอยู่ริมหาดไม้ขาว ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและมองเห็นทัศนียภาพอันตระการตาของทะเลอันดามัน เคยได้รับรางวัลมาแล้วมากมายทั้งในและต่างประเทศ สปาของที่นี่คุณภาพระดับโลก ดีไซน์โดดเด่นด้วยบ่อน้ำและกำแพงหินที่สื่อถึงความโอ่อ่าและให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนสอนทำอาหารไทยชื่อ Ginja Cook Cooking School มีอุปกรณ์กีฬามากมาย และพลับพลาสำหรับเด็ก ฯลฯ
หม่อมตรี โบ๊ท เฮ้าส์ (Mom Tri Boathouse) เป็น บูทีค โฮเต็ล ระดับ 4 ดาว ที่ได้รับการยอมรับจากแขกระดับวีไอพีทั่วโลกว่า เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีห้องพัก 38 ห้อง ห้องอาหาร Boathouse Wine & Grill เป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วโลกบริการอาหารไทยและฝรั่งเศส ไวน์ลิสต์ (Wine List) ได้รับรางวัล “Best of Award of Excellence” จากนิตยสาร Wine Spectator ของสหรัฐอเมริกา มีไวน์จากทั่วโลกให้เลือกกว่า 6,500 ขวด หรือกว่า 750 ยี่ห้อ
ภิญโญ ทิพย์พิมาศ (Pinyo Thippimas) ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Manager) ของโรงแรมหม่อมตรี โบ๊ท เฮ้าส์ กล่าวว่า “หม่อม ตรี โบ๊ท เฮ้าส์ เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทยที่ได้รางวัล Best of Award of Excellence จากนิตยสาร Wine Spectator เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา ก่อนหน้านั้นก็ได้รางวัล Award of Excellence ในปี 1995 - 2004 ลูกค้ามาแล้วมั่นใจได้ว่าจะได้ดื่มไวน์คุณภาพดีเหมาะสมกับราคา”
เมนูเด็ดที่แขกชื่นชอบกันมาก เช่น Phuket Lobster และ Ravioli Trilogy ส่วนเมนูฝรั่งเศสยอดนิยมคือ Escargots และ Foie Gras ขอแนะนำไวน์ที่คุณภาพเหนือราคา เช่น Septimo Extra Brut Mendoza, Argentina สปาร์คกลิ้งไวน์หอมหวาน จากอาร์เจนตินาแช่เย็นเฉียบเหมาะกับริมหาด นอกนั้นก็มี Septimo, Mendoza, Argentina, Malbec 2007 สำหรับจับคู่กับเนื้อ และไวน์แดงดื่มง่าย ๆ F&B Select Series No.LXI Shiraz South Australia 2006 เป็นต้น
ภูเก็ตเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลาย วิถีชีวิตที่คนภูเก็ตส่วน ใหญ่ปฏิบัติกันเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็คือการนั่งจิบกาแฟและคุยกันในเรื่องต่าง ๆ ตามร้านน้ำชา หรือร้านอาหารในยามเช้าอย่างสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน
หนึ่งในอาหารเช้าที่หลากหลายและเป็นที่นิยมของคนชาวภูเก็ตก็คือ ติ่มซำ หรือ เส่วโบ๋ย จนมีคำพูดถึงคนต่างถิ่นว่ามาภูเก็ตไม่กินติ่มซำมื้อเช้าถือว่ายังไม่ถึงภูเก็ตอย่างแท้จริง ในฐานะหนึ่งในอาหารเช้าหลักของคนภูเก็ต จึงมีร้านติ่มซำไม่ต่ำกว่าร้อยร้าน กระจายอยู่ตามชุมชนหรือถนนสายต่างๆ และคนภูเก็ตมักจะเรียกติ่มซำรวมๆ ว่า ขนมจีบ ซึ่งเป็นของเก่าคู่เมืองภูเก็ต
มาลาติ่มซำ เป็นหนึ่งในร้านติ่มซำยอดนิยมของคนภูเก็ต รวมทั้งคนต่างถิ่นที่เดินทางไปภูเก็ต เป็นร้านใหญ่ 4-5 คูหา ส่วนหนึ่งทำเป็นห้องพักราคาย่อมเยา นอกจากติ่มซำแล้วยังมีขนมจีบต่าง มีซาลาเปา, ฮะเก๋าหรือเกาจี๋, ขนมจีบ หรือเส่วโบ๋ย, เลือดหมูใบตำลึง ข้าวต้ม, หมี่ซั่ว ซึ่งเป็นหมี่พื้นเมืองภูเก็ต แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ บะกุ๊ดเต๋ หรือซุปกระดูกหมู ซึ่งของร้านนี้เป็นแบบสมัยใหม่น้ำค่อนข้างใส รสหวานนำนิดๆ และใส่เห็ดเข็มทอง ซึ่งร้านอื่นไม่มี เป็นต้น ร้านอยู่ติดถนนปฏักตรงข้ามกับบิ๊กวัน ห่างจากวัดกะตะราว 300 เมตร เปิดเวลาหกโมงเช้าเป็นต้นไป โทร.076-285179
คนรักเนื้อ มาภูเก็ตขอ แนะนำร้าน โลคันดา (Locanda) เจ้าของชื่อ โรเจอร์ ชมิด (Roger Schmid) หนุ่มแดนนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาตกหลุมรักสาวไทยและลงหลักปักฐานที่ภูเก็ตเมื่อ ปี 1989 ใช้ความรู้จากที่เคยอยู่ในครัวโรงแรมในบ้านเกิด เปิดธุรกิจที่พักชื่อ Bougainvillea Terrace House และร้านอาหารแห่งนี้ที่ถนนปฏัก ทางไปหาดกะรน สังเกตง่ายทางเข้าร้านมีวัวสีทองยืนอยู่
ร้าน Locanda ใช้เนื้อนำเข้าเกรดดีแบบแช่เย็นไม่ใช่แช่แข็งเหมือนบางร้าน จากนั้นย่างตามสไตล์อาร์เจนตินา ซึ่งการย่างเนื้อแบบนี้หายากในเมืองไทย ลูกค้ามาแล้วชอบกันมาก เมนูยอดฮิต เช่น Beef Carpaccio, Filet of Angus Tartar Loganda และ Ribeye Steak เป็นต้น เมื่อเป็นเนื้อย่างสไตล์อาร์เจนตินา ก็ขอแนะนำ Septimo Dia, Mendoza, Argentina, Malbec 2007 ไวน์จากอาร์เจนตินามาจับคู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีอาหารไทยหลายอย่าง เพราะภรรยาทำอาหารไทยเก่ง รวมทั้งของหวานที่อร่อยเช่นกัน ร้านนี้มีไวน์เซลลาร์ขนาดใหญ่สามารถนั่งดินเนอร์ในเซลลาร์ไวน์ได้หลายโต๊ะ โทร.076-330087
นี่แค่น้ำจิ้มตัวอย่างอาหารกับไวน์ที่เข้าคู่กัน ให้ไปสำเริงสำราญกันได้ที่ "ภูเก็ต"
หมายเหตุ : สนับสนุนการเดินทางโดยบริษัท เดอะ เกรท เพรซทีจ จำกัด (The Great Prestige Co.,Ltd) ผู้นำเข้าไวน์นานาชาติ โทร.02-1641100
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น