ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักลงทุนจากจีนไม่น้อยกว่า 3 บริษัท แสดงความต้องการเข้ามาลงทุนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางสนามบิน-ตัวเมือง ภูเก็ต ผู้ว่าฯมั่นใจก่อนสิ้นปีนี้ได้ข้อสรุปความชัดเจนในการลงทุน
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการผลักดันให้เกิดการลงทุนรถไฟฟ้ารางเบาในจ.ภูเก็ต ว่า การผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางท่าอากาศยานภูเก็ตถึงตัวเมือง ภูเก็ตมีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากขณะนี้มีนักลงทุนจากประเทศจีนให้ความสนใจ้ข้ามาลงทุนแล้วประมาณ 3 ราย ทั้งที่ติดต่อผ่านส.ส.ภูเก็ต ผ่านจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
สำหรับบริษัท จีนที่ติดต่อมายังจังหวัดภูเก็ต และได้เดินทางมานำเสนอแนวทางการลงทุนกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2 ราย คือ 1. บริษัท International Engineering Company Of Ershisanye Construction Group Co.,Ltd สนใจเข้ามาลงทุนในลักษณะเทิร์นคีย์ (การจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ) โดยพร้อมที่จะเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูเก็ตไปทัศนศึกษาดูงานด้านรถไฟฟ้าในประเทศจีน และบริษัท Pan-China Construction Group Co,Ltd. พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในลักษณะการขอสัมปทานจากรัฐบาลไทย
“บริษัทดังกล่าวให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนจริงๆ และในเร็วๆ นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจ.ภูเก็ตจะเดินทางไปดูงานการลงทุนรถไฟฟ้าที่ ประเทศจีนอีกด้วย “นายตรีกล่าว
ผู้ว่าฯภูเก็ต เผยต่อว่า ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้น่าที่จะมีความชัดเจนว่า บริษัทจากประเทศจีนสนใจเข้ามาลงทุนมากน้อยแค่ไหน และมีความเป็นไปได้ในการลงทุนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งมั่นใจว่า จีนสนใจและพร้อมที่จะนำเงินลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในภูเก็ต จริงๆ
โครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางท่าอากาศยานภูเก็ต-ตัวเมืองภูเก็ต ที่ผ่านมา จ.ภูเก็ตเคยว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา บริษัท พีระมิด ดีเวลล็อปเมนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท อีโคซิสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด และศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ศึกษาความเป็นไปได้การก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ต โดยได้ข้อสรุปว่าเส้นทางเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเส้นทางแรก คือ เส้นทางท่าอากาศยานภูเก็ต-ตัวเมืองภูเก็ต
ส่วนรูปแบบของรถไฟฟ้าต้องเป็นล้อยางที่วิ่งในถนนเดิมที่มีอยู่ ด้วยการทำเป็นเลนพิเศษ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการลงทุนขณะนั้นไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมทั้งได้เสนอแนะแนวทางการลงทุนว่าเงินลงทุนจะต้องมาจากภาครัฐ เพราะเป็นระบบขนส่งมวลชนที่รัฐจะต้องมีไว้บริการ และคิดว่าคงจะไม่มีเอกชนสนใจเข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง ในขณะที่ผลตอบแทนทางการเงินน้อยและต้องใช้ระยะเวลานาน แต่หากรถไฟฟ้าเกิดขึ้นที่ภูเก็ตได้ จะมีความคุ้มค่าในเรื่องภาพรวมการพัฒนาเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองนานาชาติ และความคุ้มค่าของคุณภาพเมือง คุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของภูเก็ต และยังเป็นตัวอย่างเมืองที่มีระบบขนส่งในระดับนานาชาติและเกิดขึ้นแห่งแรกใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา : Manager Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น