วันนี้ (27 ธ.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนา “โครงการประชุมสัมมนาผู้ประกอบการสถานบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 จัดโดยสำนักการสอบสวนและนิติกร กรมการปกครอง โดยมีผู้ประกอบการสถานบริการในภูเก็ตเข้าร่วมประมาณ 300 คน ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พร้อมทั้งตรวจความพร้อมของสถานบริการในเขตเมืองภูเก็ตให้ปฎิบัติตาม ที่กฎหมายกำหนดในทุกๆ ด้าน ที่สถานบริการ ทีทู กทม. และทิมเบอร์ฮัท โดยมีนายขจรศักดิ์ สิงโตกุล รองอธิบดีกรมการปกครอง นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม
นายถาวรกล่าวว่า รัฐบาลได้เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่แรกที่จะให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับ กฎหมายต่างๆ ของสถานประกอบการ เพื่อให้สถานประกอบการดังกล่าวเป็นสถานประกอบการที่ยั่งยืน เพราะรัฐบาลห่วงใจสถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้า มาใช้บริการสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ
และเกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับสถานบริการที่ บ่งบอกว่าสถานประกอบการนั้นไม่มีความปลอดภัย นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือมียาเสพติดเต็มไปหมด ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของสถานบริการทั้งหมด ทำให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการขาดความมั่นใจและไม่ใช้บริการลดน้อยลง
ดังนั้นจึงเห็นว่าสถานบริการในจังหวัดภูเก็ตจำเป็นที่จะต้องได้รับ การติดตามดูแล ปรับปรุงให้ทุกฝ่ายที่ใช้บริการเกิดความมั่นใจและรักษาชื่อเสียงไว้ตลอด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
นายถาวรกล่าวอีกว่า สถานบริการในภูเก็ตจะต้องเป็นสถานบริการมีใบอนุญาตถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้ามาใช้บริการ จะต้องมีการกวดขันไม่ให้มียาเสพติดเข้ามา แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวก็ไม่ยอมที่จะให้นำยาเสพติดเข้ามา จะต้องไม่มีการแสดงลามกอนาจาร ที่เป็นการทำลายวัฒนธรรม และโดยเฉพาะผู้หญิงอันเป็นเพศแม่ รวมไปถึงอาวุธปืนจะต้องไม่มีอย่างเด็ดขาด ทางหนีไฟต้องยอม และเสียงจะต้องไม่ดังจนเกินไป และสุดท้ายถังดับเพลิงจะต้องพร้อมหากเกิดไฟไหม้
ที่สำคัญพนักงานทุกคนจะต้องเข้าใจและรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายสถาน บริการ ซึ่งหากสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ สถาบริการนั้นจะได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการอย่าง ยั่งยืน
นายถาวรยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการสถานบริการบริเวณหาดป่าตอง ต้องการที่จะขยายเวลาการปิดออกไปให้สอดคล้องกับการใช้บริการของนักท่อง เที่ยวไปจนถึงตี 5 ว่า ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวที่เป็นรูปธรรมจากผู้ประกอบการที่หาดป่าตอง ซึ่งความต้องการดังกล่าวอาจจะเป็นความต้องการของผู้ประกอบการไม่กี่ราย ซึ่งหากการขอขยายเวลาปิดออกไปนั้นไปกระทบกับผู้ประกอบการอื่นๆ ก็ไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ขยายแวลาปิดออกไปได้ การที่จะขยายเวลาปิดออกไปนั้นจะต้องรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการทุกกิจการ ว่าได้รับผลกระทบหรือไม่อย่างไร
ส่วนการขอขยายโซนนิ่งสถานบริการออกไปอีกนั้น นายถาวรกล่าวว่า หากฝ่ายปฏิบัติงานประสบปัญหาในการปฎิบัติงานก็สามารถที่จะนำเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังฝ่ายที่กำหนดนโยบายได้
ด้าน นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานบริการในจังหวัดภูเก็ตที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายมีมีทั้งหมด 313 แห่ง และมีอีกจำนวนมากที่ทางจังหวัดไม่สามารถออกใบอนุญาตสถานบริการให้ได้ เนื่องจากติดปัญหาอยู่นอกเขตโซนนิ่งสถานบริการ ซึ่งปัญหานี้ทางจังหวัดภูเก็ตจะนำเสนอปรับปรุงโซนนิ่งสถานบริการให้เหมาะสม ต่อไปในอนาคต
สถานบันเทิงป่าตองขอปิดถึงตี 5
ขณะที่ นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ผู้ประกอบการสถานบริการที่ซอยบางลา หาดป่าตอง ต้องการที่จะให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาปิดสถานบริการออกไปจนถึงตี 5 เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้บริการของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการหลัง เที่ยงคืน และในบริเวณซอยบางลาไม่มีสถานประกอบการอย่างอื่น มีเฉพาะสถานบริการเท่านั้น แต่ในส่วนของพื้นที่รอบนอกนั้นไม่เห็นด้วยที่จะให้ขยายเวลาปิดไปจนถึงตี 5 เพราะอาจจะรบกวนผู้ประกอบการอื่นๆ ได้
อย่างไรก็ตาม สถานบริการในหาดป่าตองทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีประมาณ 400-500 แห่ง และในแต่ละวันสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 8-10 ล้านบาท
ที่มา : Manager Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น